ดูหนัง Crocodile Island ju e dao 2020

ดูหนัง Crocodile Island ju e dao 2020

ดูหนัง Crocodile Island ju e dao 2020

ดูหนัง Crocodile Island ju e dao 2020 เครื่องบินที่ตกไปยังเกาะหนึ่ง ที่ไม่มีผู้ใดเคยพบเห็น ผู้คนที่รอดตายจากเรื่องราวในครั้งนี้ ต้องหาวิธีที่จะออกไปจากเกาะแห่งนี้ เนื่องด้วยพวกเขาได้พบเห็นกับจระเข้ที่มีขนาดใหญ่โต ในเวลาที่ให้เลือกแค่ตายหรือเป็น บางคนบางครั้งอาจจะคิดว่าชีวิตของตัวเองนั้นสำคัญที่สุด แต่ว่ายังมีบางคนที่นึกถึงชีวิตของคนอื่นๆมากยิ่งกว่าชีวิตของตนเอง ก็เลยกล้าที่จะเข้าไปเจอหน้ากับไอ้เข้ที่มีขนาดใหญ่โต เรื่องย่อ Crocodile Island (Ju e dao) (2020) เกาะจระเข้ยักษ์ HD เต็มเรื่องพากย์ไทย ซับไทย มาสเตอร์ Crocodile Island ju e dao 2020 ดูหนังฟรีออนไลน์ เพราะว่าการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอุบัติเหตุทางการบินจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ผู้โดยสารบนเที่ยวบิน GZ261 ขณะบินอยู่เหนือสมุทรภูติผีปีศาจเครื่องบินปฏิบัติงานไม่ดีเหมือนปกติทำให้จะต้องลงจอดฉุกเฉินที่เกาะตะไข้ พวกหลินเฮ่าจำต้องหลบซ่อนจากการติดตามฆ่าผู้มีชีวิตรอดของไอ้เข้ยักษ์ สู้เพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาต้องหาเครื่องสื่อสารที่อยู่ในเรือบินขนส่งของการทำศึกครั้งที่ ถึงจะรอดตายได้ ในขณะตายแล้วก็เป็น บางคนจะเห็นแก่ชีวิตของตนเอง แต่ยังมีคนบางบุคคล เพื่อความรักระหว่างครอบครว เพื่อนฝูงแล้วก็แฟน สู้กับจระเข้ยักษ์อย่างกล้าหาญ คืนจบ-ธรรม เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของ มานพ เด็กหนุ่มพนักงานที่มีหน้าที่บัญชีธรรมดาๆที่กำลังจะสมรสกับแฟนในอีกไม่ช้า แต่ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างก็พังทลายลง เมื่อแฟนของเขาถูกยิงเสียชีวิต มานพโดนยัดข้อกล่าวหาว่าฆ่าคนรักของตน แล้วก็มีสารเสพติดในร่างกาย ทำให้ต้องชดใช้ความผิดในเรือนจำเป็นระยะเวลานาน แต่เมื่อตนเองออกจากตาราง เขาก็ตกลงใจวางตัวเป็นศาลเตี้ย ออกทวงคืนความเป็นธรรมให้ตัวเองและก็คู่รัก ด้วยการไล่พิพากษ์ผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยตัวเอง หนังมิได้เล่าเรื่องแบบเส้นตรง มีการตัดสลับเหตุการณ์เล่าย้อนต้นไปๆมาๆ ค่อยๆเผยเรื่องราวต่างๆคลายเงื่อนทีละนิด ตอนต้นคิดแล้วนะว่าแบบ ไม่รอดแน่ๆแต่มันกลับทำออกมาได้อย่างน่าดึงดูดรวมทั้งน่าติดตาม  แต่น่าเสียดายที่เฉลยคำตอบปมง่าย รวบรัดมากมาย และเร็วไปหน่อย ด้วยความที่ตัวหนังมีความยาวเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งด้วยแหละมั้ง รายละเอียดของหนังยังมีการเปิดเผยสังคมอันดำมิดหมี ไม่ว่าจะเรื่องของ คนจนตายฟรี คนร่ำรวยรอดสบาย คนถูกกลายเป็นแพะ ความแตกต่างเอารัดเอาเปรียบ เป็นคนประเทศไทยคงจะเข้าถึงได้อย่างง่ายดายกับเรื่องเหล่านี้ รวมทั้งนำเสนอเนื้อหาสะท้อนประเด็นไปยันชื่อเรื่อง จบ-ธรรม มันคือ “ยุติ” (จบ, เลิก) ความเป็น “ธรรม” (ความถูกต้องชัดเจน) ก็มีแต่ว่าอีกนั่นแหละ เนื้อหายังมีความตะหงิดๆไม่ได้ชักชวนให้คล้อยตามกับพระเอกไปทุกสิ่งทุกอย่าง มันยังมีความเอ๊ะ เชิญชวนฉุกคิดอยู่บ้าง และยังมีจุดไม่สมเหตุสมผลอยู่ด้วย ทางด้านฉากแอ็คชันก็ไม่ได้เยอะแยะจนกระทั่งเกร่อ รวมทั้งมิได้น้อยจนกระทั่งน่าขยะแขยง ด้วยเหตุว่ามันก็ไม่ได้ย้ำฉากแอ็คชันไรขนาดนั้นอยู่แล้ว แต่เท่าที่มีก็ทำได้เฉยๆไม่ดี ไม่ห่วย พอหอมปากหอมคอ มองไปได้เพลินๆแต่…มีแต่อีกแล้ว 555 คือมันจะมีฉากนึงเสมือนต้องการลองของถ่ายเป็นมุมมองแบบ Fps ทำไมก็ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่องจริงๆ555 รวมทั้งแป๊บๆด้วยนะ ไม่ได้นานเลย ดนตรีประกอบในประเด็นนี้ก็ถูกกันดี แม้กระนั้นบางฉากก็ดูจะบิวต์เกินความจำเป็นหน่อยนะ 555+ แต่เพลงประกอบโดยวง Taitosmith กับเพลง ยุติ-ธรรม นี่เยี่ยมจริงๆทั้งเนื้อหา คำร้อง ทำนอง เป็นวงที่ทำเพลงสะท้อนสังคมได้เจ็บแสบ ชน กระทบกระแทก ได้โคตรดีเยี่ยมที่สุด พอมาทำเพลงให้หัวข้อนี้ ไม่มีวงไหนพอเหมาะพอเจาะไปกว่าพวกเขาอีกแล้ว นั่งโยกหัว End-Credit เพลินจริงๆ แม้กระนั้นสิ่งที่ถูกใจที่สุดของประเด็นนี้เลยคือดาราหนัง ไม่สิ จะต้องบอกว่าการแสดงของ ก๊อต จิรายุ ต่างหากที่พวกเราชอบมาก คือท้าวความก่อนว่าพวกเราไม่ทราบจะนักแสดงคนนี้มาก่อน ไม่เคยติดตามผลงาน ไม่เคยดูเลย ดูหนัง Crocodile Island ju e dao 2020 จนตราบเท่าเขามาแสดงใน จอมขมังเวทย์ 2020 แล้วก็เล่นบทตัวร้ายได้แบบ เห้ย ดีขนาดนี้เลยหรอ เป็นดีแบบดีมาก ไม่รู้จะว่ากล่าวอะไรเลยจริงๆพอเพียงมองเห็นโปสเตอร์กับแบบอย่างเรื่องนี้ทราบว่า ก็อต เล่นเลยแบบยิ่งบวกความน่าดูเข้าไปมากๆและในประเด็นนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมว่า ก๊อต เป็นยอดผู้แสดงจริงๆยิ่งตอนเฮียแกถือปืนนี่ โคตรโก้ โก้จริงๆโก้เก๋ซะจนกระทั่งต้องการที่จะให้ไปประชันหน้าที่กับ John Wick เลย 555+ แต่ดาราหนังคนอื่นพวกเราเฉยๆมาก บางบุคคลเล่นแข็ง เล่นใหญ่ไปด้วยซ้ำ สรุปแล้ว คืนเลิก-ธรรม เป็นหนังที่คนไทยน่าจะอินได้ง่ายๆ กับเรื่องราวสะท้อนสังคม และก็เป็นภาพยนตร์ไทยที่น่าสนับสนุน เผื่ออนาคตภาพยนตร์ไทยจะได้ออกมาจากขนบเดิมๆจากแนวหนังผี ภาพยนตร์ตลกพลาดท่า ที่สำคัญการแสดงของก็อต จิรายุ ก็โคตรคุ้มที่จะไปดูแล้ว แม้กระนั้นส่วนที่ผิดหวังที่สุดหมายถึงเรื่องการพรีเซ็นท์ที่อ่อนเหลือเกิน เพราะว่าสิ่งที่คนดูมุ่งหวังจากการดูหนังหัวข้อนี้หมายถึงความดราม่าจัดหนัก หรือใจความสำคัญความไม่ถูกกันที่ใหญ่กว่านั้น หนังเลือกที่จะเล่าแค่เพียงความขัดแย้งระดับบุคคลเพียงแค่นั้น อย่างการรักผ่านศาสนา หรือความใฝ่ฝันในชีวิต แต่ว่าถ้าให้มองอีกมุมว่านี่เป็นเรื่องราวความรัก วัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ก็ยังเป็นการเล่าแบบผิวเผิน ไม่เคยทราบสึกอินอะไรก็ตามบางสิ่งถูกจับใส่เข้ามาแบบแออัดยัดเยียด รุงรังไปหมด บทแล้วก็การเล่าเรื่องขาดชั้นเชิง ทั้งความรัก ความไม่ถูกกัน มองงงๆราวกับพามาหลงอยู่ในจังหวัดปัตตานี สรุปแล้ว ละติจูดที่ 6 เป็นหนังรักที่มีเรื่องราวชายแดนใต้เป็นแบ็คกราวด์ โปรดักชันดี ภาพสวย ฉากระเบิดใหญ่เหมือนจริง สิ่งที่คิดว่าจำต้องมองเห็น คุณจะได้มองเห็นมันทั้งสิ้น อีกทั้งระเบิด ฝุ่นควันเถ้าถ่าน ทหาร รถถัง ชาวมุสลิมโพกผ้า วัฒนธรรมที่น่าละลานตา วิถีชีวิตตอนเช้า เป็นหนังที่มีของดีๆอยู่ในมือออกจะเยอะ แต่ว่านำมาใช้ได้โคตรเสียดายของ

Jumbo – รักฉันมันจัมโบ้

เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวของหญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับแม่คนเดียว ได้มาดำเนินการในสวนสนุก แล้วก็หลงรักกับเครื่องเล่นชิ้นหนึ่งและก็ตั้งชื่อให้มันว่า Jumbo ที่สำคัญหนังประเด็นนี้ได้รับแรงผลักดันมาจากเรื่องราวจริงของผู้ที่หลงรักกับเครื่องเล่นในสวนสนุกจริงๆ(ชายผู้ตกหลุมรัก Rollercoaster, หญิงสาวกับเครื่องเล่นในสวนสนุก หรือหญิงผู้เขียนงานกับหอพักไอเฟล) ดูแค่โครงเรื่องรวมทั้งข่าวสารที่ได้ยินมามันบางทีก็อาจจะฟังดูแปลก มองดูเป็นเหมือนคนวิกลจริต แต่ว่าอันที่จริงแล้วมันมีโรคประเภทนี้อยู่จริงๆที่ถูกเรียกว่า Object Sexuality หรือ Objectophilia และก็หนังประเด็นนี้ก็นำเรื่องราวนี้มาถ่ายทอดอย่างเข้าใจ กับเรื่องราวความรักอันบริสุทธิ์ มันเป็นหนังรักธรรมดาๆเรื่องนึงนี่แหละ หากเพียงเปลี่ยนแปลงจากรักคน มารักข้าวของเท่านั้น หนังพาให้เรารู้เรื่องผู้แสดง Jeanne ได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่เธอเริ่มรู้จัก Jumbo จนกำเนิดเป็นความผูกพัน จนกระทั่งในที่สุดเรียกมันว่าความรักได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ซึ่งในกลางทางนั้น หนังยังนำพาสถานการณ์ต่างๆที่ Jeanne จำเป็นต้องพบเจอ ไม่ว่าจะคือปัญหาครอบครัว หรือหัวหน้าสถานที่ทำงานของคุณ รวมทั้งทั้งปวงนั้นมันคือตัวหล่อหลอมให้คำว่ารักอันแสนงามของ Jeanne ต่อ Jumbo มันเด่นชัดมากขึ้นไปอีก หากคนใดรู้สึกว่ามันจะเป็นหนังแบบแปลกร่วมเพศวาบหวิวกับเครื่องเล่นอย่างงั้นบอกเลยว่าไม่ใช่ แต่มันมีฉากนึงน่ากล่าวชมจริงๆเป็นซีนอีโรติก orgasm ของตัว Jeanne ที่เสนอออกมาได้ดูเยี่ยมที่สุดจริงๆแม้ว่าตัวละครจะเปลือยตอนบนก็ตาม แต่ว่าก็ไม่ได้เชิญชวนให้คิดไปในทางอนาจารเลยแม้แต่น้อย มากมายไปกว่าเรื่องราวความรัก หนังยังการนำเสนอสอดแทรกเรื่องราวของปัญหาที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ความเข้าอกรู้เรื่องกันระหว่างแม่และก็ลูกสาวอีกด้วย หนังหัวข้อนี้มีงานภาพแล้วก็เสียงที่สวยสดงดงามมาก ฉากระหว่าง Jeanne กับ Jumbo เป็นงามจริงๆสวยงามทั้งมุมภาพ การถ่ายทำ และก็ยังรวมทั้งเสียง แถมตัวหนังยังมีความ Fantasy ที่ตัวเราไม่ได้คิดว่ามันประหลาดเลย แต่กระปรี้กระเปร่าแล้วก็งามมากยิ่งกว่า รวมทั้งสิ่งที่น่าชมเชยสุดๆไม่แพ้กันเป็นการแสดงของ Noémie Merlant ที่ถ่ายทอดตัวละคร Jeanne ออกมาได้โคตรดี ซีนอารมณ์คุณที่แสดงออกมาในฉากต่างๆเล่นได้ถึงมากมาย ซีนดราม่าต่างๆเรียกว่าเอาอยู่และก็เชิญชวนผู้ชมอินตามสุดๆแล้วก็ซีนกับ Jumbo ที่ต้องแสดงกับสิ่งไม่มีชีวิต คุณกลับเล่นมันออกมาได้เบิกบานใจแบบสุดๆ ดาราหนังคนอื่นๆก็ยังเล่นได้ดิบได้ดีไม่น้อยหน้า โดยเฉพาะบทแม่ที่แสดงโดย Emmanuelle Bercot ที่บางครั้งก็อาจจะมิได้มีซีนอารมณ์เยอะมากแบบ Noémie Merlant แต่ว่าทุกฉากที่คุณแสดงก็เอาอยู่จริงๆ สรุปแล้ว Jumbo เป็นหนังแฟนข้าวของที่ดูแล้วมิได้มีความรู้สึกว่าแปลกเลย มันกลับกลายหนังรักที่ชวนเข้าใจรวมทั้งมองสุจริตใจเสียมากกว่า ก็อย่างคำพูดที่ผู้คนจำนวนมากคงจะเคยรับรู้ “รักมันงดงามเสมอแหละ” แม้จะเกิดกับข้าวของก็ตาม

รีวิวหนัง Monster Hunter มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ – ซาตานยักษ์ ปะทะ พี่ จา พนม

Monster Hunter มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ เป็นหนังที่ถือเอาเกมสุดได้รับความนิยมมาดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ อีกหนึ่งเรื่องของผู้กำกับ พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน จาก Resident Evil โดยมีนักแสดงนำอย่าง ไม่ลลา โยโม้วิช เกาะติดคู่กับนักแสดงคนไทยอย่าง จา พนม นอกเหนือจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบอย่าง มีแกน กู๊ด, รอน เพิร์ลแมน, นักร้องแร็พเปอร์อย่าง ที.ไอ. รวมทั้ง ฮิโรนะ ยามาซากิ ร่วมแสดงกับหนังที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากเกมเรื่องนี้ขอรับ Monster Hunter มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ เล่าถึง Artemis (เล่นบทโดย มิลลา โยโอ้อวดวิช) เธอเป็นหัวหน้าทีมทหารชั้นเยี่ยมแห่งยูเอ็น ผู้ที่ถูกส่งตัวผ่านแกนวาร์ปมาสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยอสูรกายยักษ์ ดูหนัง Crocodile Island ju e dao 2020 และเพื่อหาทางกลับไปอยู่บ้าน Artemis และทีมทหารชั้นเลิศของคุณต้องประจันหน้าและทำงานร่วมกับเจ้าถิ่นอย่าง The Hunter (สวมบทบาทโดย จา พนม) นักสู้ปริศนาผู้มีตความชำนาญพิเศษเพื่อเอาชีวิตรอดในโลกแห่งนี้ครองอยู่ The Hunt – จับ ล่า ฆ่า ชั่วร้าย เป็นเรื่องราวของกลุ่มชนแแปลกหน้าที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความสับสนในสถานที่ที่พวกเขาไม่รู้ สิ่งเดียวที่ให้พวกเขามาเป็นอาวุธ แต่หารู้ไม่ว่า มันเป็นการเปิดเกมคนล่าคนของพวกคนมั่งคั่ง The Hunt เป็นหนังที่สร้างโดยค่าย Blumhouse ค่ายหนังสยองขวัญ ที่ทำให้หัวข้อนี้เป็นหนังทุนต่ำแต่ย้ำความเลือดสาด มีฉากชั่วร้ายๆเครื่องในกระจุย จริงๆThe Hunt ก็ไม่ใช่หหนังแนวที่แปลกอะไร รวมทั้งพวกเราก็มองเห็นกันมาบ่อยแล้ว กับเกมคนล่าคน เอาที่ใกล้เคียงสุดแล้วก็ผ่านไปไม่นานก็ Ready or Not (2019) เนี่ยแหละ เรียกได้ว่าหนังเปิดมาได้สนุกสนานและก็น่าสนใจอย่างยิ่งจริงๆ กับกลุ่มของผู้คนที่โดนจับมา รวมทั้งมีอาวุธปกป้องจากเหล่าคนมั่งคั่ง มาถึงก็เปิดเกมล่าใส่กันไม่ยั้ง นับว่าบันเทิงใจและน่าดึงดูดจริงๆแถมยังมีการหลอกล่อคนดูเกี่ยวกับผู้แสดงต่างๆด้วย ว่าเห้ยคนไหนกันแน่ผู้แสดงนำกันแน่วะ (แม้กระนั้นก็ทายใจไม่ยากนะ) เราชอบในจุดนี้มากมายจริงๆแม้กระนั้นก็ยังมีจุดที่สงสัยว่า ทำไมจำต้องให้ผู้แสดงครอบปาก ถ้าเกิดจะให้พวกเขาคัดออกกันง่ายขนาดนั้น – – หนังเพิ่มดีกรีความสนุกสนานร่าเริงเข้าไปอย่างสม่ำเสมอด้วยการนำพานักแสดงมาเผชิญกับสถานะการณ์อื่นๆนอกเหนือจากการไล่ล่า คือพอตัวละครออกมาจากพื้นที่ปิด แทนที่จะเอาตัวรอดในพื้นที่จำกัด แปลงเป็นว่าจำต้องเอาตัวรอดในพื้นที่เปิดกว้าง รวมทั้งระแวงว่าจะเชื่อใจคนใดกันแน่ได้บ้าง มันก็สนุกสนานไปอีกในลัษณะหนึ่ง ภายหลังหนังเปิดเผยตัวละครที่เป็นตัวเอกแล้วมันก็ยังคงสนุกอยู่ ยังคงมีฉากแอ็คชันโหดเหี้ยมๆให้เห็นกันอยู่ แถมตัวเอกนี้ยังมีคาแรคเตอร์ที่ดูกวนตีนอย่างบอกผิด ซึ่งมันก็เป็นจุดที่ทำให้หนังบันเทิงใจเช่นเดียวกัน แม้กระนั้นหนังดันมาแผ่วปลายซะงั้น เหมือนพอเพียงหนังดำเนินไปเรื่อยความสนุกสนานร่าเริงมันก็เริ่มลดลงๆเริ่มคุยกันเยอะกว่าแอ็คชัน เริ่มจากเหตุผลในการจับคนมาไล่ฆ่าในครั้งนี้ก็เริ่มเข้าใจ แต่ก็ยังมึนๆว่าทำไปเพราะเหตุไร ทำเพื่ออะไร รวมทั้งจุดที่ขุ่นเคืองใจมากๆเป็นทำไมจำเป็นต้องปกปิดบริเวณใบหน้าของนายหญิงบอสใหญ่ที่แสดงโดย Hilary Swank ไว้ตลอดทั้งเรื่อง รวมทั้งมาเฉลยคำตอบในตอนท้ายๆมันมิได้เซอร์ไพรส์อะไรเลย ในแบบอย่างก็โชว์หน้าคุณหลาซะขนาดนั้น ไม่รู้เรื่องเจตนาสำหรับในการปกปิดใบหน้าคุณเลยจริงๆรวมทั้งในซีนด้านหลังเรื่องมันก็สนุกสนานล่ะ มีความกวนตีนในฉากสู้กัน แม้กระนั้นมันมิได้บันเทิงใจหรือน่าสนใจเท่าต้นเรื่องเท่านั้นเอง สรุปแล้ว The Hunt นับว่าเป็นหนังที่สนุก ดูได้เพลินๆชั่วร้าย เลือดสาด แต่งงๆกับเหตุผลบ้าง และความสนุกสนานแผ่วปลายอย่างน่าเสียดาย กลับสู่หน้าหลัก https://printcalendartemplates.com/